Wednesday, August 25, 2010

ประธานฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) เผยวิสัยทัศน์สู่การเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดภายในปี 2553

ประธานฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) เผยวิสัยทัศน์สู่การเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดภายในปี 2553



กรุงเทพฯ (21 กรกฎาคม 2552) – ฮอนด้าตั้งเป้าเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2553 โดยเน้นกิจกรรมที่หลากหลายเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ รวมทั้งการตลาดเพื่อสิ่งแวดล้อมและการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า



ในโอกาสนี้ มร.อาซึชิ ฟูจิโมโตะ ประธานคนใหม่ของบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ได้ชี้แจงวิสัยทัศน์และเป้าหมายของบริษัทฯ ในการพูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรกกับสื่อมวลชนนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง

มร. ฟูจิโมโตะเชื่อมั่นว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะฟื้นตัวโดยพิจารณาจากยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ จึงได้ปรับเพิ่มเป้าจำหน่ายรถยนต์ในปีนี้เป็น 84,000 คัน (จากเดิม 80,000 คัน)



“เราเป็นบริษัทที่อยู่ในแถวหน้าในการรับมือกับปัญหาท้าทายของตลาดมาโดยตลอด เพราะเราเป็นองค์กรที่กระชับ ฉลาดและมีความฉับไว เรารักที่จะท้าทายตัวเอง เราต้องการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและต้องการก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง ในการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้ารถยนต์นั่งซึ่งจัดโดยเจ.ดี.พาวเวอร์ ยิ่งกว่านั้น เราต้องการเป็นบริษัทที่สังคมต้องการให้ดำรงอยู่และเป็นบริษัทที่สังคมจะขาดไม่ได้” มร.ฟูจิโมโตะ กล่าว



ฮอนด้ามุ่งมั่นที่จะทำให้ได้ดีเกินความคาดหมายของลูกค้า ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินการไปแล้ว ด้วยการพัฒนาคุณภาพของรถยนต์ฮอนด้าให้ได้มาตรฐานโลกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการออกแบบที่ล้ำหน้า และการบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้ กลยุทธธุรกิจของฮอนด้าตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อสังคมที่จริงจัง ประกอบด้วยหลัก ธรรมาภิบาล การบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์เชิงรุก และการยึดมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์

“เราได้ดำเนินกิจกรรมที่หลากหลายในประเทศไทยเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การแข่งขันกอล์ฟฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบฮอนด้า เรซซิ่ง เฟส และเทศกาลดนตรีฮอนด้า ซัมเมอร์ เฟส ในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เราได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมหลายโครงการ โดยร่วมกับพันธมิตรธุรกิจและลูกค้า อาทิ โครงการโรงเรียนสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมดีเด่นที่ดำเนินภายใต้กลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย นอกจากนี้ มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทยได้จัดสรรงบประมาณ 70 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนการปลูกต้นไม้ที่เขาสิบห้าชั้น จังหวัดจันทบุรี บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ยังได้นำเงินบริจาคจากการจัดแข่งขันกอล์ฟฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์และรายได้จากยอดสั่งจองรถยนต์ฮอนด้าในงานมอเตอร์โชว์แต่ละปีเพื่อสมทบสนับสนุนกิจกรรมปลูกต้นไม้เช่นเดียวกัน” มร.ฟูจิโมโตะ กล่าว



ความมุ่งมั่นและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ ยังส่งผ่านไปถึงเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า โดยจะเห็นได้จากโชว์รูมทุกแห่งจะให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้ายังช่วยกันยกระดับการปฏิบัติงานให้สูงขึ้น ด้วยการปรับปรุงระบบและประสิทธิภาพของตนให้มีคุณภาพระดับโลกของฮอนด้า และรวมทั้งให้สูงกว่ามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

”ความปลอดภัยและการขับขี่อย่างปลอดภัยยังเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในธุรกิจของเรา ความรับผิดชอบด้านนี้ของฮอนด้าเห็นได้จาก โครงการ Bon Voyage ยิ่งมีสติ...ยิ่งปลอดภัยและการเปิดศูนย์ขับขี่ปลอดภัยของฮอนด้า เป้าหมายของเราอยู่ที่การให้ความรู้แก่ผู้ขับขี่เกี่ยวกับหลักการพื้นฐานด้านความปลอดภัยและการขับขี่อย่างปลอดภัย ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพและทักษะในการขับขี่” มร. ฟูจิโมโตะ กล่าว



ฮอนด้ามีรากฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งในประเทศไทย และถึงวันนี้ธุรกิจของเรายังคงมั่นคง ในเดือนเมษายนและพฤษภาคมที่ผ่านมา ฮอนด้าสามารถครองยอดขายอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์นั่งในประเทศไทย ในขณะที่ช่วง

ครึ่งปีแรก บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 17.3 ของตลาดรถยนต์โดยรวม และมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 39.4 ของตลาดรถยนต์นั่ง ปีนี้ ฮอนด้าตั้งเป้ายอดจำหน่ายที่ 84,000 คัน



บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทย ปัจจุบัน โรงงานผลิตของฮอนด้าในประเทศไทยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับหกในบรรดาโรงงานฮอนด้าที่มีอยู่ในโลกทั้งหมด เป็นรองเพียงโรงงานในญี่ปุ่น สหรัฐ จีน แคนาดา และสหราชอาณาจักรเท่านั้น ฮอนด้ามีพนักงานประจำโรงงานในประเทศไทยประมาณ 4,200 คน



**************************************************************************



สารฑูล สักการเวช

sarathun@caronline.net

No comments:

Post a Comment