Thursday, August 26, 2010

เมอร์เซเดส-เบนซ์เอส คลาส By:Thunyaluk Seniwongs

ยนตรกรรม S-Class โฉมปัจจุบัน รหัสตัวถัง W 221 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2005 ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายทั่วโลกกว่า 270,000 คัน ทำให้ S-Class เป็นรถหรูที่ได้รับความนิยมสูงสุด ซึ่งต่อยอดความสำเร็จมาจากรุ่น 220 ในปี 1951 ในปีนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์นำเสนอ the new generation S-Class ให้เป็นต้นแบบแห่งสุดยอดยนตรกรรมหรูระดับพรีเมี่ยมที่โดดเด่นทั้งด้านสมรรถนะ เทคโนโลยีระบบความปลอดภัยที่เป็นเลิศ นวัตกรรมอันล้ำสมัยที่ให้ความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร





The new generation S-Class มาพร้อมกับเครื่องยนต์รุ่นใหม่ซึ่งมีทั้งเบนซินและดีเซลที่นอกจากจะเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่แล้ว ยังมีประสทธิภาพในการประหยัดน้ำมันที่เป็นเยี่ยม นอกจากนี้เจนเนอเรชั่นที่ 9 ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ S-Class ยังได้บุกเบิกนวัตกรรมและเทคโนโลยีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบเซ็นเซอร์ที่รายล้อมตัวรถ รวมทั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์และ Intelligent partner ระบบช่วยเหลือในการขับขี่แบบอัตโนมัติต่างๆอีกมากมาย ที่จะปกป้องผู้โดยสารไปตลอดการเดินทาง ทั้งยังสามารถเพลิดเพลินไปกับอุปกรณ์ความบันเทิงที่สร้างสรรค์มาเป็นพิเศษ the new generation S-Class จึงเป็นผู้นำของยนตรกรรมหรู ในทุกๆด้าน



ในปี 2010 นี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์นำเสนอ “the new generation S-Class” พร้อมกันถึง 3 รุ่น ทั้งที่เป็นเครื่องยนต์แบบเบนซิน แบบวี 6 และ วี 8 และดีเซลคอมมอนเรล วี 6 ได้แก่ S 300 L, S 500 L และ S 350 CDI BlueEFFICIENCY L โดยเฉพาะรุ่นดีเซลเป็นแบบ BlueEFFICIENCY ที่ได้รับการปรับโครงสร้างของรถเพื่อเพิ่มแอโรไดนามิค หรือให้มีความลู่ลมมากที่สุด เพื่อให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ทำงานพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC รถรุ่นนี้สามารถลดปริมาณคาร์บอนไดอ๊อกไซค์ถึง 7 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างไรก็ดี การปรับโครงสร้างของรถเพื่อเพิ่มแอโรไดนามิคครั้งนี้ ทำให้ลดเสียงดังจากการปะทะของลมมากขึ้น





S 300 L มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด V6 ปริมาตรกระบอกสูบ 2,997 ซีซี พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ให้แรงม้าสูงสุด 161 กิโลวัตต์ / 219 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตรที่ 2,500 – 5,000 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 8.2 วินาที ให้ความเร็วสูงสุดที่ 245 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ย 10.8กม./ลิตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยเฉลี่ย 219 กรัม/กม.





S 350 CDI BlueEFFICIENCY L มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด V6 ปริมาตรกระบอกสูบ 2,987 ซีซี พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ให้แรงม้าสูงสุด 155 กิโลวัตต์ / 211 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 540 นิวตันเมตรที่ 1,600–2,400 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0–100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 7.8 วินาที ให้ความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ย 12.9 กม./ลิตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยเฉลี่ย 202 กรัม/กม.



S 500 L มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด V8 ปริมาตรกระบอกสูบ 5,462 ซีซี พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ให้แรงม้าสูงสุด 285 กิโลวัตต์ / 388 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตรที่ 2,800 – 4,800 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 5.4 วินาที ให้ความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ย 8.8 – 9.0 กม./ลิตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยเฉลี่ย 260 กรัม/กม.







The new generation S-Class สนนราคาที่



S 300 L 7,799,000 บาท

S 350 CDI BlueEFFICIENCY L 7,999,000 บาท

S 500 L 10,999,000 บาท

No comments:

Post a Comment